วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์

ต่อไปนี้เป็น 10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าคุณจะวางแผนไปเที่ยวระยะสั้นหรือระยะยาวคุณต้องมาเที่ยวที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งก็ไม่ลำบากเลย คุณสามารถมาเที่ยวได้ครบสบายๆ เพราะประเทศสวิสนั้น เป็นประเทศเล็ก สามารถไปเที่ยวสถานที่ต่างๆได้ง่าย ใช้ระยะเดินทางสั้น
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวก็มีมากมายตั้งแต่ รีสอร์ทบนภูเขา ทะเลสาป ป่าโปร่งเขียวชอุ่ม ปราสาทยุคโบราณ รวมถึงเมืองที่มีบรรยากาศทั้งแบบยุคใหม่และยุคเก่าผสมพสานอย่างลงตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นประเทศที่เหมาะเป็นอย่างมากหากคุณอยากมาเที่ยวยุโรป นอกจากนั้นประเทศแห่งนี้ยังเป็นประเทศที่มีอัตราการก่ออาชญากรรมต่ำมากอีกด้วย

1) เขตเทือกเขาจุงฟราว The Jungfrau Region


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เขตภูเขาจุงฟราว The Jungfrau Region
อาณาเขตเทือกเขาจุงฟราว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของสวิตเซอร์แลนด์ที่มีวิวทิวทัศน์งดงามมาก ยอดเขาสีขาวประกอบไปด้วยสามเทือกเขา Jungfrau, Monch และ Eiger ซึ่งสีนั้นตัดกับทุ่งหญ้าเขียวขจีด้านล่างของดินแดน Alpine แห่งนี้เป็นอย่างมาก ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ มาที่นี่แค่สัมผัสกับกลิ่นอากาศแสนสดชื่นก็ฟินสุดๆแล้วครับ

2) Chateau de Chillon, Montreux


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ Chateau de Chillon, Montreux
เมือง Montreux ตั้งอยู่ในหัวใจของเขต Riviera ของสวิตเซอร์แลนด์ มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำเจนีวา . . . เดินเลาะไปตามริมแม่น้ำ จะพบกับปราสาท Chillon ซึ่งข้างในของปราสามโบราณยุคศตวรรตที่ 11 มีหลายโซนที่น่าสนใจเช่น ห้องพักส่วนตัวของขุนนาง, หอคอย, ถ้ำใต้ดิน, ลานกว้างของปราสาท
ซึ่งปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์อับดับ 1 ของสวิส ซึ่งเก็บสมบัติล้ำค่าเอาไว้มากมายเช่น อาวุธโบราณ และ เฟอร์นิเจอร์ที่ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ . . . ปราสาทแห่งนี้สามารถมาเยือนได้ง่าย โดยการเดินเลาะแม่น้ำมา , มาโดยรถไฟ หรือ รถบัสก็ได้เช่นกัน

3) Swiss National Park, Zernez


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ Swiss National Park, Zernez
สวนธรรมชาติสวิสมีพื้นที่กว้าง 169 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยภูเขาและป่าโปร่ง บรรยากาศดี ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น กวางแดง (large red deer), เลียงผา (chamois), แพะเขายาว (ibexes) , กระรอกยักษ์ (marmots) . . . การได้มาที่นี่คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติแสนสวยราวกับอยู่ในหนังเรื่องทไวไลท์เลยทีเดียว

4) เทศกาล Fasnacht Spring Carnival, เมืองบาเซิล (Basel)


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ Fasnacht Spring Carnival, Basel
หากคุณมาเที่ยวสวิส อย่าลืมมาที่เมือง บาเซิล ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอับดับสองสำหรับเทศกาล Fasnacht Spring carnival ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงของโลก เป็นช่วงเวลา 3 วันสุดสนุกที่เต็มไปด้วย ผู้เข้าร่วมงานเทศกาลแต่งตัวหลากสีสัน ใส่หน้ากากหลากหลายแบบ ส่วนมากจะคล้ายตัวตลก (บางอันก็ประหลาดกว่าตัวตลกซะอีก) เดินขบวนพาเรดบนถนนเส้นหลักของเมือง บาร์ และ คาเฟ่ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

5) Geneva


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ Geneva
เป็นเมืองที่โอบกอดทะเลสาปเจนีวาเอาไว้ ทำให้เมืองนี้มีลักษณะเป็นวงกลมที่มีทะเลสาปอยู่ตรงกลาง ดูคลาสสิคเป็นอย่างมาก ซึ่งเมืองเจนีวาใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้  คุณจะได้เยือน น้ำพุที่สูงที่สุดในโลก, พิพิธภัณฑ์สุดขลัง และอาหารเลิศรศสไตล์ยุโรปได้ที่นี่  แต่สำหรับผู้ที่สนใจศิลปะแนวประยุกข์ที่ผสมผสานรูปแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่เข้าด้วยกันแล้วหละก็ พิพิธภัณฑ์ที่เจนีวา ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดเลยหละครับ

6) The Matterhorn, Zermatt


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ The Matterhorn, Zermatt
Zermatt (เซอร์แมตต์) เป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขต Alps มีความสูงถึง 4,478 เมตร ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักปีนเขา ที่จะมาพิชิตยอดเขา แสนท้าทายแห่งนี้กัน ซึ่งที่ยอดเขาแห่งนี้คุณยังสามารถเล่นสกีหิมะได้พร้อมกับชมวิวสวยๆไปพร้อมกัน และนอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอย่างอื่นอีกมากมายนอกจากเล่นสกี รวมทั้งร้านอาหารชั้นเยี่ยม และผับ บาร์ สถานบันเทิงยามค่ำคืนมากมายเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวยามค่ำคืน

7) St. Moritz


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ St. Moritz
สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้ ส่วนมากจะเป็นผู้ที่มั่งคั่งมาเที่ยวกัน ซึ่ง St. Moritz เป็นรีสอร์ทหน้าหนาวซึ่งมีกิจกรรมมากมาย เช่น สกี รวมไปถึงการอาบแร่ แช่โคลน ซึ่งสาวสวิสเชื่อกันว่าช่วยรักษาโรค และ ดีต่อสุขภาพอย่างมากด้วย ส่วนร้านอาหารยังเป็นแบบหรูหราราคาแพง แถมมีสปาให้บริการอีกด้วย ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความแพงและหรูหรา (ส่วนมากจะเป็นกิจกรรมช่วงกลางคืน เช่น สถานบันเทิงยามราตรี และ ไลฟ์สไตล์อันหรูหรายามค่ำคืน)

8) Mt. Pilatus


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ Mt. Pilatus
ภูเขา Pilatus อยู่ใกล้กับเมืองทะเลสาป Lucerne . . . มีความสุงถึง 2,120 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปบนยอดเขา และ ชมวิวอันสวยงามของยอดเขาได้ทันที (แถมยังสนุกกับการนั่งเคเบิ้ลคาร์ด้วย) ถ้าคุณไม่อยากขึ้นไปเร็วนักกับเคเบิ้ลคาร์ คุณอาจจะเดินขึ้นก็ได้ ซึ่งวิวทิวทัศน์นั้นรับรอง ตะลึงแน่ๆ (ทางเดินมีหลายทางให้เลือก สวยๆทั้งนั้น) นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังเห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ (Alps) อีกด้วย – เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์

9) St. Gallen


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ St. Gallen
เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ : St. Gallen เคยเป็นเพียงชื่อของโบสถ์ไอริสเก่าสมัยยุค 612 AD. แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ขยายกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอับดับ 7 ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม สุดสวยแบบฉบับโบราณมากมาย ซึ่งเห็นได้ทั่วทั้งเมือง จุดเด่นของเมือง St. Gallen ก็คือโบสถ์ที่มีหอคอยอยู่ในกลางเมืองที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตามแบบศิลปสไตล์ Frescoes และ Stucco

10) The Rhine Falls น้ำตกไรน์ฟาลล์


เที่ยวสวิส 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ The Rhine Falls
ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Schaffhausen ซึ่ง The Rhine Fall หรือน้ำตก รายน์ นั้นเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งมาก แห่งหนึ่งของโลก ใกล้ๆกับตัวน้ำตกนั้นมีปราสาทยุคกลาง ก็คือ ปราสาท Schoss Laufen ซึ่งภายในได้มีการปรับปรุง และมีร้านอาหาร ที่พัก และร้านค้าต่างๆเอาไว้บริการนักท่องเที่ยว
ในวันชาติของสวิตเซอร์แลนด์ (1 สิงหาคม) ที่น้ำตกไรน์ฟาลล์แห่งนี้จะมีการแสดงพลุ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมากทุกๆปี

10ที่เที่ยวในสเปน

วันนี้วันดีปีใหม่ท้องฟ้าแจ่มใสพาใจสุขสันต์...(ได้ข่าวว่าผ่านปีใหม่มาสองสามวันแล้ว! ฮาาา) ปีๆหนึ่งผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ วันนี้มาเริ่มต้นปีใหม่กันด้วยการจัดอันดับ 10 เมืองในสเปนที่ฉันชอบมากที่สุดจากการได้ไปเที่ยวตลอดระยะเวลา 2 ปีที่อยู่สเปน เกณฑ์ที่จขบ.ใช้ในการเลือกเมืองที่ชอบ 10 อันดับมาจากความชอบ (ของมันแน่อยู่แล้ว!) ความประทับใจ (ปลื้มลื๊มมม) บรรยากาศ (ดี...โรแมนติกเว่อออ) ผู้คน (น่ารักมีอัธยาศัยใจดี) ของกิน (เน้นของอร่อย!) หรือบางที่ก็เลือกจากความสวย เลอค่า แปลกประหลาด น่าทึ่ง (ว่าทำออกมาได้ได้เนี่ย? ขอคารวะคนสร้าง!) 
 
ใน 10 อันดับนี้ บางเมืองก็ได้เอามารีวิวให้ได้ดูกันแล้ว แต่บางเมืองก็ยังไม่ได้เอามาลง คราวนี้ก็ถือว่าเอามาลงเรียกน้ำย่อยก่อนละกัน 555 แล้วจะค่อยๆทยอยลงรีวิวฉบับเต็มๆอีกทีในอนาคตอันใกล้นี้ :)
 
มาเริ่มกันที่อันดับ 10 
 
เริ่มมาก็ขอหลายใจยกให้เมือง Salamanca (ซาลามังก้า), Segovia (เซโกเบีย), Toledo (โตเลโด้) อยู่เท่าๆกันในอันดับสิบ เพราะว่า ไม่สามารถเลือกได้ว่าชอบเมืองไหนมากกว่ากัน เริ่มจาก Salamanca เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางทิศตะวันตกของสเปน เรียกกันว่าเป็น "เมืองมหาวิทยาลัย" เพราะมีมหาวิทยาลัย Salamanca ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงด้านการสอนภาษาสเปน ไฮไลท์ของเมืองนี้อยู่ที่ Plaza de España ที่เขาว่ากันว่าสวยที่สุดในประเทศสเปน (คือเกือบทุกๆเมืองใหญ่ของสเปนจะมี plaza ชื่อเดียวกันนี้อยู่ด้วย) ส่วนตัวชอบเพราะว่ามันเล็กๆน่ารัก บรรยากาศดีมาก ของกินถูก Plaza สวย บรรยากาศตอนเดินเลียบแม่น้ำตอนเย็นๆนี่ดีมากๆ ส่วน Segovia นั้นจขบ.ชอบปราสาทดิสนีย์ คือ เป็นปราสาทที่ทางสเปนเค้าเคลมว่า เป็นต้นแบบของปราสาทดิสนีย์ (หรอออออ) เมืองนี้มีเมนูเด็ด คือ Cuchinillo หรือลูกหมูย่าง(ทั้งตัว) อร่อยมากกก เด๋วจะมารีวิวเต็มๆอีกที ส่วน Toledo ชอบวิวเมืองที่มองจากจุดชมวิวบนเนินเขาอีกฝั่งของเมืองมากๆ มองลงมาเห็นเมือง Toledo ทั้งเมือง ให้ความรู้สึกว่าหลุดมาอยู่ในยุคกลางสมัยอัศวินมากๆ มันให้คนละอารมณ์กับเวลาไปดูเมืองในยุโรปที่อื่นๆจริงๆ สรุปคือ ทั้งสามที่นี้ ยกให้อยู่ในอันดับ 10 เท่ากัน 
 
Salamanca
 
 
Segovia
 
 
Toledo
 
 
อันดับ 9
 
ขอยกเมือง Valencia (บาเลนเซีย) เมืองที่หลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อจากโฆษณา>น้ำส้มวาเลนเซีย 555 จขบ.ได้ไปเมืองนี้ตอนไปงานเทศกาล Las Fallas ซึ่งเป็นเทศการเผาหุ่นที่ดังมากๆของที่นี่ สิ่งที่ทำให้ตะลึงอึ้งทึ่งที่สุดคือ Museo de Bellas Artes de Valencia หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะของที่นี่ ซึ่งตัวอาคารเหมือนหลุดมาจากอวกาศแนวๆนั้นเลย ยิ่งไปตอนกลางคืนนะ โห สวยขน๊าดดดด
 
 
อันดับ 8
 
ขอยกให้เมือง Barcelona (บาร์เซโลน่า) เมืองในดวงใจนักท่องเที่ยวไทยส่วนมาก เพราะที่นี่เขามีของดี ของแปลก ของช๊อป ของกิน ครบทุกสิ่งสรรพ! ศิลปะสไตล์โมเดิร์นของที่นี่เค้าสวยแปลกแหวกขนบจริงๆ โดยเป็นฝีมือของสถาปนิกชาวกาตาลัน Antonio Gaudí ที่ฝากผลงานไว้มากมายทั้งในบาร์เซโลน่าและเมืองอื่นๆของสเปน เคยลองคิดเล่นๆว่า ถ้าบาร์เซโลน่าไม่มีเกาดี้ เมืองมันคงไม่มีไรให้เที่ยวแล้วล่ะ! (ฮาาา) เท่าที่ได้คุยกับนักท่องเที่ยวไทยหลายๆคนที่มาที่นี่ จะชอบเมืองนี้ที่สุด แต่ที่จขบ.จัดให้อยู่ในอันดับท้ายๆเพราะมีความรู้สึกว่า "ที่นีมันไม่ใช่สเปน(ง่ะ)" คือ ถามว่าสวยมั้ย สวยมากกกก เจริญมั้ย เจริญมากกกก แต่อยากอยู่มั้ย ไม่อยากแฮะ ยังรู้สึกว่าที่นี่มันใช่สเปน แบบสเป๊นสเปน เพราะว่าคนที่นี่ส่วนใหญ่พูดภาษาถิ่น คือ ภาษากาตาลัน ป้ายต่างๆก็เป็นภาษากาตาลัน จขบ.ไปมาสองครั้ง งงกับภาษามันทุกครั้ง เพราะมันแทบไม่มีส่วนคล้ายภาษาสเปนเลย มันออกไปทางภาษาฝรั่งเศสมากกว่า แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะรู้สึกว่าที่นี่เป็นสวรรค์ไปเลย เพราะคนที่นี่พูดอังกฤษได้ (ที่อื่นในสเปนนี่หาคนพูดอังกฤษยาก ฮาาาา)
 
La Sagrada Familia

  
 
Park Güell
 
อันดับ 7
 
มาแล้ววววววว Madrid (มาดริด) อันเป็นที่รักของฉัน! ที่นี่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของจขบ.เลยทีเดียว โอเค มาดริดอาจจะไม่ได้เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์เลอค่าระดับโลก แบบที่ปารีสมีหอไอเฟล/ลอนดอนมีบิ๊กเบน/หรือบาร์เซโลน่ามีโบถส์ La Sagrada Familia แต่มาดริดก็มีความสวยและมีเสน่ห์ในแบบของมัน และเป็นที่ที่จขบ.มีความทรงจำดีดีมากมาย บางทีที่ที่เราชอบที่สุด อาจจะไม่ใช่ที่ที่สวยที่สุด ดีที่สุด แต่เป็นที่ที่ทำให้เรามีความสุขที่สุด สบายใจที่สุด อุ่นใจที่สุดต่างหาก อันที่จริงมาดริดซุกซ่อนมุมสวยๆไว้เยอะนะ เด๋วจะได้เอามารีวิวแบบเจาะลึกไว้เป็นข้อมูลให้คนที่อยากจะไปเที่ยวได้มาอ่านกันเพลินๆก่อน
 
 
 
อันดับ 6
 
ขอยกตำแหน่งนี้ให้กับเมืองแปลก Cuenca (เกวนก้า) ที่จขบ.เคยรีวิวให้ชมกันไปแล้ว ไปตามอ่านใน entry ก่อนๆได้ จขบ.ชอบเพราะมันสวยแปลกตาเกินกว่าที่คาดไว้ เคยมั้ยที่บางทีเราเห็นรูปสถานที่ท่องเที่ยวที่นึงแล้วแบบ โห สวยมากๆ อยากไปมากๆ แต่พอมาดูของจริงกลับ "เออ...ก็สวยดี...โอเค" แต่ที่นี่มันแบบเกินจากที่เราคาดไว้มาก แล้ววันที่ไปก็อากาศดีมาก บรรยากาศดีมาก เลยมีความทรงจำที่ดีมากๆกับเมืองนี้
 
 
อันดับ 5
 
ขอยกให้เมืองฝาแฝดของ Cuenca ซึ่งก็คือเมือง Ronda (รอนด้า) เป็นเมืองที่น่ารัก ประทับใจ ชอบบรรยากาศ ชอบสะพานหินที่ทอดตัวยาวเชื่อมเมืองสองฝั่งเข้าด้วยกัน ชอบลักษณะของเมืองที่เป็นหน้าผาสูงชันสองฝั่งแล้วมีบ้านเรือนเรียงรายริมผา เป็นเมืองที่ amazing เหนื่อความคาดหมาย เคยลงรีวิวไว้แล้ว ย้อนกลับไปอ่านกันได้
 
 
อันดับ 4
 
ขอยกให้เมืองที่(ส่วนตัวคิดว่า)มีความเป็นสเป๊นสเปนโดยแท้ เมือง Sevilla (เซบีย่า) ชอบเพราะมันสเป๊นสเปนนี่แหละ สิ่งที่จขบ.ประทับใจมากที่สุดคือ Real Alcázar de Sevilla ซึ่งเป็นพระราชวังสไตล์แขกที่สวยมากกกกก ชอบมากกก เป็นพระราชวังสไตล์แขกที่ไปเป็นที่แรก เลยรู้สึกว้าววววเป็นพิเศษ เมืองก็น่ารักดี เป็นตรอกซอกซอยเล็กๆ มีบ้านสไตล์สเปนทางใต้ เมืองนี้เคยรีวิวไว้แล้วเหมือนกัน ลองไปอ่านกันดูนะ
 
 
 
อันดับ 3
 
เข้าสู่ท๊อปทรีแล้วววว อันดับ 3 ขอยกให้ Islas Cíes หรือหมู่เกาะเซียส ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบทะเลมากๆ รู้สึกสดชื่น สบายตา ผ่อนคลายเวลาได้มาเที่ยวทะเล ที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงามมาก ชายหาดขาวละเอียด ภูเขาสูงชัน มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ลัดเลาะไปตามขอบเขา ตอนไปไม่ได้คาดหวังว่ามันจะสวยขนาดนี้ แต่พอไปถึง โอ้ววว พระเจ้าจอร์จมันสุดยอดมากกก เด๋วจะมารีวิวแบบเต็มๆเร็วๆนี้
 
 
 
อันดับ 2
 
ขอยกให้เมือง Granada (กรานาด้า) เมืองที่เคยเป็นอาณาจักรแขกมัวร์มาก่อน ความสวยงามของที่นี่ต้องมาชมด้วยตาตัวเองแล้วจะรู้ว่ามันสวยกว่าที่เห็นในรูปมาก จขบ.เพิ่งเคยได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบแขกๆที่สวยงามมากๆก็ที่นี่เป็นที่แรก เลยรู้สึกตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะ La Alhambra ซึ่งเป็นพระราชวังสไตล์แขก ทำให้รู้สึกว่า สเปนมีของดีที่ไม่เหมือนกับที่อื่นๆในยุโรป เช่นถ้าเราพูดถึงการมาเที่ยวยุโรป เราคงจะนึกถึงปราสาทสไตล์เจ้าหญิงเจ้าชาย ตึกสไตล์เรอเนสซองสวยๆ หมู่บ้านเล็กๆสีสันสดใสในขุนเขาเขียวชอุ่ม คงไม่มีใครนึกถึงสถาปัตยกรรมแบบแขกๆ ลวดลายแบบแขกๆ ซึ่งที่เมืองนี้มีแบบครบถ้วน ทั้งกลิ่นอาย บรรยากาศ ประวัติศาสตร์ที่เป็นของจริงไรจริง อันที่จริงต้องยกความดีความชอบให้แขกเขาเหมือนกันนะ ที่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลบุกมาตีชาวคริสต์(สเปน)สมัยก่อน แล้วมาสร้างอาณาจักรที่สวยงามแบบนี้ให้คนรุ่นหลังยังได้ยลโฉมกัน ใครยังไม่เคยอ่านรีวิวเมืองนี้ ไปอ่านกันได้นะจ๊ะ   
 
 
 
อันดับ 1
 
แต่น แต่น แต๊นนน แล้วก็มาถึงสุดยอดเมืองที่จขบ.ชอบมากที่สุด ประทับใจมากที่สุด บรรยากาศดีที่สุด โรแมนติกที่สุด อาหารอร่อยล้ำเลอค่าที่สุด และอยากกลับไปมากที่สุด เมืองนั้น คือ...
 
...เมือง San Sebastián (ซาน เซบาสเตียน) !!! (ปรบมือ แปะ แปะ แปะ)
 
มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ได้มาเที่ยวเมืองนี้จะตกหลุมรักเมืองนี้เอามากๆ สำหรับจขบ.เมืองนี้เป็นเมืองชายทะเลที่สวยครบทุกองค์ประกอบ คือ วิวสวย ตึกสวย ภูเขาสวย ทะเลสวย อาหารสวย เอ้ย อาหารหน้าตาน่ากินและรสชาติอร่อยมาก รวมถึงผู้คนก็จัดว่าหน้าตาดีแบบยุโรปเหนือ (ใจความหลักเลย ฮาาา) เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ (País Vasco) ทางตอนเหนือของประเทศสเปน ชายหาดจรดกับทะเล Cantábrico ใกล้ฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นที่นี่จะมีอากาศดีเกือบตลอดปี หน้าร้อนไม่ร้อนจัด หน้าหนาวไม่หนาวมาก ธรรมชาติสวยงาม ป่าไม้เขียวชอุ่มชุ่มชื้น น้ำทะเลใสเย็น โดยรวมคือ เป็นเมืองที่น่าอยู่ น่าท่องเที่ยว น่ามาฮันนีมูนมากๆ เลิฟเลยเมืองนี้!!!
 
เมืองนี้จขบ.ยังไม่ได้เอามารีวิว แต่เด๋วจะเอามารีวิวเร็วๆนี้ล่ะ 
 
 
 
สำหรับคนที่อยากจะมาสัมผัสประเทศสเปนในมุมต่างๆ จขบ.ก็อยากให้ทุกๆคนลองเปิดรับเมืองสวยๆเหล่านี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย ลองเพิ่มเส้นทางการท่องเที่ยวเข้าไปนอกเหนือจาก routine เดิมๆอย่างมาดริดหรือบาร์เซโลน่า เพราะจริงๆแล้วสเปนมีของดีมากมายที่ไม่ได้รับการโปรโมท นี่จขบ.ไม่ได้เป็นหน้าม้าการท่องเที่ยวสเปนนะ แต่ว่ารู้สึกเสียดายที่แหล่งท่องเที่ยวสวยๆแบบนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก อยากให้หลายๆคนได้มาเห็นมาสัมผัสแดนกระทิงดุสเปน ประเทศที่จขบ.ยกให้เป็นบ้านหลังที่สอง แถมยังเป็นสปอนเซอร์ส่งเสียจขบ.จนจบป.โทมาได้ในฐานะนักเรียนทุน (ฮาาา) ปีใหม่นี้ จขบ.ก็หวังว่าทุกๆคนคงจะมีความสุขกับการท่องเที่ยวตลอดปีนี้และปีต่อๆไป และถ้าไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนดี ลองมาเที่ยวสเปนดูสิ! :)

เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยว น่าไปของประเทศอิตาลี

ต่อไปนี้เป็น 10 เมืองของประเทศอิตาลี ที่ถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวสุดสวย น่าไปที่สุดของอิตาลี บางเมืองเคยถูกจัดให้เป็นเมืองสวยที่สุดของยุโรปมาแล้ว หากคุณเป็นคนที่รักความคลาสสิคสไตล์ยุโรป แน่นอนว่าคุณต้องรักอิตาลี และต้องชอบเมืองทั้ง 10 อันดับต่อไปนี้แน่นอน

10. จีนัว (Genoa)


Genoa เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
บ่อยครั้งที่เมืองเจนัว (Genoa) ถูกบดบังรัศมีจากเมืองอื่นที่มีชื่อเสียงมากกว่าอย่างกรุงโรม หรือเวนิส แต่ยังไงก็ตาม เจนัว ก็เป็นที่เป็นดังไข่มุกของประเทศอิตาลี เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสุดคลาสสิคของอิตาลี ที่ประดับประดาไปด้วยตึกราบ้านช่องตกแต่งด้วยสีสไตล์พาสเทล เต็มไปด้วยโบสถ์เก่าแก่ดูมีมนต์ขลัง สวนเล็กๆที่ถูกจัดอย่างสวยงาม และบางมุมยังซ่อนซากอารยธรรมเก่าแก่ยุคโรมันอีกด้วย เมืองแห่งนี้เป็นดั่งศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ซึ่งแต่ละมุมถนนจะสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมจากยุคอดีตมาสู่ปัจจุบัน

9. ปิซ่า (Pisa)


Pisa เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
ตั้งอยู่ในแนวเดียวกับแม่น้ำอาร์โนในทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นทัสกานี (Tuscany) ซึ่งเมืองปิซ่ายังคงมนต์เสน่ห์ของความสวยงามของเมืองยุคกลางไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เมืองปิซ่านอกจากจะมีชื่อเสียงมาจาก หอเอนเมืองปิซ่า อันโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆยังสวยงามน่าสนใจ คุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนเป็นอย่างยิ่ง

8. เนเปิลส์ (Naples)


Naples เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
หนึ่งในเมืองเศรษฐกิจที่วุ่นวายที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศอิตาลี เนเปิลส์เป็นเมืองหลวงของแคว้น กัมปาเนีย ในทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี
เมืองเนเปิลส์เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ทางศิลปะและประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับ บรรยากาศครึกครื่นแบบสังคมเมืองที่เต็มไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่เที่ยวยามราตรี ที่สำคัญอาหารอิตาลีที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง Pizza, Spaghetti และParmigiana . . . ที่เมืองนี้คุณภาพของอาหารเป็นที่ขึ้นชื่อมาก เพราะแต่ละร้านเอาใจใส่ในการทำเป็นอย่างดี และมักจะใช้ส่วนประกอบอาหารที่เป็นธรรมชาติ สดใหม่ และ made in italy เท่านั้น

7. เซียนา (Siena)


Siena เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
เซียนา สร้างขึ้นใต้ร่มเงาของภูเขาสามลูกใจกลางของแคว้นทัสกานี เมืองนี้ให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปสู่ยุคกลาง ด้วยสิ่งปลูกสร้างต่างๆเป็นแบบดั้งเดิมแถมยังมีประเพณีการแข่งม้าโบราณที่เรียกกันว่า Il Palio (เอล พาลีโอ) ที่เซียนา สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดก็คือ “ศูนย์ประวัติศาสตร์เซียนา” ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอิตาลีที่น่าไปที่สุดของอิตาลีเลยก็ว่าได้ ซึ่งที่ศูนย์ประวัติศาสตร์เซียนา มีงานฝีมือ งานศิลปะ สิ่งปลูกสร้าง และอีกมากมาย ซึ่งแต่ละอย่างนั้นสวยงามและดูเก่าแก่มีมนต์ขลังสุดๆ

6. Cinque Terre


Cinque_Terre เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
ความหมายของชื่อเมืองนั้นแปลว่า “Five Lands” แปลเป็นไทยกันเอาเองนะครับ ซึ่งเมือง Cinque Terre มี 5 หมู่บ้านด้วยกัน Riomaggiore, Manarola, Vernazza, Monterosso and Corniglia
เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นลีกูเรีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี หมู่บ้านต่างๆของเมือง Cinque Terre นั้น มีภูมิศาสตร์ที่โดดเด่นสวยงามที่สุดของอิตาลีเลยก็ว่าได้ เช่นเทือกเขาลาดชันเป็นแนวยาว หรือ ระเบียงลมสวยๆ ที่มีมาตั้งแต่หลายร้อยปีที่แล้ว

5. Amalfi Coast


Amalfi_Coast เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
ตั้งอยู่ในแคว้น กัมปาเนีย เมืองชายทะเล Amalfi Coast มีชื่อเสียงเรื่องลือมากในเรื่องความสวยงามของตัวเมืองและภูมิศาสตร์ โดดเด่นมากจนทำให้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวระดับท็อปของอิตาลีไปเลย ความยาวของเมืองยาวประมาณ 30 ไมล์ ตามแนวหาด Sorrento Peninsula ซึ่งทำให้เมืองแห่งนี้ติดอันดับเมืองน่าเที่ยวของอิตาลี จากความงดงามของภูมิศาสตร์แสนสวยอย่างที่เห็นในรูป บ้านหลากสี และ ต้นไม้ที่ขึ้นสลับไปกับถนน

4. มิลาน (Milan)


Milan เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
ถูกทิ้งระเบิดจนเสียหายไปมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หลังจากนั้นเมืองมิลานได้ถูกบูรณะเรื่อยมา จนในปัจจุบันได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดเมืองหนึ่งของทวีปยุโรป แถมที่มิลานผู้คนจากทั่วโลกยังยกให้เป็นเมืองยักษ์ใหญ่ในวงการแฟชั่นโลก เป็นศูนย์กลางของสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังหลากหลายยี่ห้อ นอกจากนั้นที่มิลานยังมีขุมทรัพย์ทางศิลปะอย่างภาพวาด The Last Supper ของ Leonardo Da Vinci, โรงละครโอเปร่า La Scala, the Castello Sforzesco และโบสถ์แบบ Gothic ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็อยู่ที่เมืองมิลานด้วย

3. ฟลอเรนซ์ (Florence)


Florence เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
เมืองหลวงแห่งแคว้น ทัสกานี “ฟลอเรนซ์” . . . เมืองนี้มักจะถูกขนานนามว่าเป็นพิพัธภัณฑ์ขนาดยักษ์ เพราะว่าความสวยงาม รูปทรง และส่วนประกอบอื่นๆของสิ่งปลูกสร้างของเมืองนี้ดูราวกับเทพนิยาย ซึ่งผลงานศิลปะล้ำค่า พิพิธภัณฑ์ และโบสถ์เก่าแก่ กระจัดกระจายอยู่ทั่วตัวเมือง ทำให้ยิ่งดูมีมนต์เสน่ห์ทางศิลปวัฒนธรรมแบบฉบับยุโรปมากขึ้นไปอีก

2. เวนิส (Venice)


Venice เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
เวนิสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆของประเทศอิตาลี ซึ่งเวนิสมีความโดดเด่นเฉพาะตัวตรงที่ถุกสร้างบนจุดที่ถูกล้อมรอบด้วยทะเล Adriatic
เวนิสนั้นอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี เวนิสนั้นประกอบด้วยเกาะเล็กๆ (จะเรียกว่าเกาะดีไหมนะ) 118 เกาะ ซึ่งมีสะพานรูปทรงสวยงามเชื่อมระหว่างเกาะให้ผู้คนสามารถเดินข้ามฝากไปมาได้ การเดินทางภายในตัวเมืองนั้น ใช้เรือแจวไปตามคานาล (แม่น้ำที่ไหลผ่านตามเกาะต่างๆ) โดยมี Grand Canal ซึ่งเป็นคานาลใหญ่สุดผ่ากลางเมือง ทำให้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง โดยเมืองนี้ส่วนตัวชอบเป็นพิเศษ ด้วยวิวสวยของคานาลและสถาปัตแบบดั้งเดิมของเวนิส จึงทำให้เมืองแห่งนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลก

1. กรุงโรม (Rome)


Rome เที่ยวอิตาลี 10 เมืองท่องเที่ยวของประเทศอิตาลี
เมืองหลวงในอดีตของอาณาจักรโรมันที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งโรมในปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลี กรุงโรมตั้งอยู่ศูนย์กลางของแคว้นลาซีโอ
กรุงโรมนั้นเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมของศิลปวัฒนธรรมทั้งแบบคลาสสิคและโมเดิร์นได้อย่างลงตัว และเป็นที่รู้กันว่าที่กรุงโรมมีสถาปัตยกรรมโบราณของกรุงโรมอยู่มากมาย แถมกรุง Vatican ก็ยังอยู่ในโรมอีกด้วย กรุงโรมนั้นมีอายุยืนยาวมากกว่า 2,500 ปี ในฐานะของเมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรม การเมือง และ ศาสนา มาหลายยุคหลายสมัย

แผนที่อิตาลี และสถานที่ท่องเที่ยวอิตาลีต่างๆตามเมืองข้างบน

แผนที่ สถานที่ท่องเที่ยวอิตาลี Italy

10ที่เที่ยวในเยอรมัน

เยอรมันเป็นประเทศที่มีความเจริญเป็นอับดับต้นๆของโลกในหลายๆด้าน ทั้งเทคโนโลยี สถาปัตยกรรม และอื่นๆอีกมากมาย แต่ก็ยังมีความสวยงามของธรรมชาติและมนต์ขลังของอาคารสิ่งปลูกสร้างยุคโบราณ ที่น่าค้นหาและชวนให้ไปเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เยอรมันกลายเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวกัน ปีละนับไม่ถ้วน ต่อไปนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเยอรมัน 10 อันดับ ที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาดหากไปประเทศเยอรมัน แล้วจะรู้ว่าสิ่งดีๆของเยอรมัน มีมากกว่า เบียร์ และ รถหรู

1) เบอร์ลิน (Berlin)


เบอร์ลิน Berlin เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
ความหลากหลายและความน่าตื่นเต้น คุณสามารถหาได้ทั้งสองอย่างจากกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมัน และที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะ แฟชั่น ดนตรี งานสถาปัติสุดอลังการ ที่เที่ยวกลางคืนสุดชิค คุณสามารถหาได้จากเมืองแห่งนี้ เดินลงมาทางถนน Unter den Linden ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์, โบสถ์, โอเปร่าเฮ้าส์ และที่สำคัญคือ ประตู Brandenburg ซึ่งเป็นประตูกั้นเยอรมันตะวันออก และ ตะวันตกในยุคที่ยังไม่รวมประเทศ ซึ่งประตูแห่งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของการรวมเป็นปึกแผ่นของเยอรมันอีกด้วย อีกสิ่งสถานที่ที่ห้ามพลาดของกรุงเบอร์ลินก็คือ The Jewish Museum ซึ่งได้รับเป็นมรดกโลกจากองการ UNESCO

2) ป่าดำ (Black Forest)


ป่าดำ (Black Forest) เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
ป่าดำแห่งเยอรมันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเยอรมันที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งจากความสวยงามของธรรมชาติ ป่าดำมีอาณาเขตทางตะวันตกติดกับแม่น้ำไรน์และตะวันออกติดกับพื้นที่ทำการเกษตรของชาวนา และมีอาณาบริเวณกว้างถึง 11,000 ตารางกิโลเมตร มีสถานที่สวยๆให้ไปเที่ยวมากมายตั้งแต่ภูเขาสูง ยัน ไร่องุ่น คุณสามารถมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆได้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเท้า การปั่นจักรยาน หรือ เดินทางบนหลังม้าก็ทำได้ทั้งนั้น – เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
ที่นี่คุณยังจะได้พบกับหมู่บ้านสปาน้ำแร่ ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของโลกอย่าง หมู่บ้าน Baden-Baden ซึ่งย้อนกลับไป 2000 ปี ทหารโรมันมาที่นี่ เพื่ออาบน้ำผ่อนคลาย เพราะเชื่อว่าน้ำแร่ของที่นี่สามารถรักษาแผลและอาการบาดเจ็บต่างๆได้ . . . ทุกวันนี้หมู่บ้าน Baden-Baden เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนรวย ฝรั่งเขาเรียกกันว่า เมืองหลวงน่าร้อนของยุโรป เพราะน้ำแร่ของที่นี่ผุดขึ้นมาจากตาน้ำทั้ง 12 แห่งรอบๆบริเวณ ทำให้น้ำที่นี่มีแร่ธาตุสูง แต่การจะมาที่นี่ก็ใช้ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยหละครับ

3) ปราสาทไฮเดลเบิร์กและสะพานเมือง (Heidelburg castle and Old Town Bridge)


ปราสาทไฮเดลเบิร์กและสะพานเมือง (Heidelburg castle and Old Town Bridge) เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
ปราสาทไฮเดลเบิร์ก บางส่วนถูกทำลายไปบ้าง แต่ปราสาทแห่งนี้ยังคงความขลัง ตามแบบฉบับปราสาทสไตล์ยุโรป ซึ่งที่นี่เป็น 1 ใน landmark ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยอรมัน . . . แต่ก่อนถูกสร้างให้เป็นป้อมปราการ (ประมาณ ค.ศ. 1300) ต่อมาปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นปราสาทที่พำนักของพระเจ้าฟรีดิช Freidrich . . . อย่าลืมที่จะเยี่ยมชม ที่ผิงไฟสไตล์ Renaissance ที่สวยงามในส่วนปีก Ruprecht, โบสถ์ประจำปราสาท, สวน Hortus Palarnnus (สวนแห่งนี้ไม่เคยสร้างเสร็จ แต่ก็เคยถูกจัดให้เป็น 1 ใน 8 มหัศจรรย์ของโลกมาแล้ว) ส่วนนอกปราสาทไปไม่ไกลก็มีสะพานประจำเมือง ที่สวยงาม เก่าแก่ และมีวิวสวยๆ เหมาะให้ไปเดินเล่น ดูวิว พักผ่อน สุดๆ – เที่ยวเยอรมัน

4) เมืองโคโลญจน์ (Cologne)


 เมืองโคโลญจน์ (Cologne) เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
มหาวิหารโคโลญจน์เป็นมหาวิหารสไตล์ Gothic ที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลยก็ว่า สถาปัตยกรรมของที่นี่มีความสวยงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แม้แต่กระจกก็ถูกสร้างและออกแบบอย่างปราณีตโดยจิตรกรเอกของเยอรมัน Gerhard Richter
เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอรมันมากมาย ทั้งพิพิธภัณฑ์ โรงหนัง โรงละคร และร้านอาหารและบาร์ . . . ถ้าคุณมาที่เมืองโคโลญจน์อย่าลืมมาที่ Alter Market และ Heaumarkt Squares ซึ่งที่นี่คุณสามารถให้พนักงานเสิร์ฟ refill เบียร์ได้เรื่อยๆ >.< (อยากไป) คุณสามารถดื่มจนเมาปลิ้นเท่าไหร่ก็ได้ . . . ที่เมืองนี้มีเทศกาลเฉลิมฉลอง 5 ฤดู ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่เดือน พฤษจิกายนเป็นต้นไป นอกจากนั้นเมืองนี้ยังมี Chocolate Museum เอาไว้เอาใจคนรักของหวานโดยเฉพาะ ที่พิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลตมี 3 น้ำพุช็อคโกแลต ซึ่งคุณสามารถเอาวัฟเฟิลไปจุ่มกินได้ แถมยังมีประวัติศาสตร์น่ารู้ต่างๆเกี่ยวกับช็อคโกแลตที่มีมากว่า 3000 ปี อีกด้วย

5) ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein castle)


ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein castle) เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
เคยดูซินเดอเรลลาไหม ถ้าเคย ลองนึกภาพปราสาทในการ์ตูนดูนะครับ . . . ปราสาทนอยชวานชไตน์ ก็คล้ายๆกับในการ์ตูนนั่นแหละ แบบว่า สวยงาม แฟนตาซีสุดๆ ปราสาทแห่งนี้อยู่ทางตอนใต้ของแคว้น Bavaria ซึ่งปราสาทแห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ Walt Disney สร้างปราสาทต่างๆในการ์ตูนของเขาให้มีลักษณะคล้ายกับปราสาทนอยชวานชไตน์ . . . ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างโดย พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ในศตวรรตที่ 19 เอาไว้เป็นสถานที่สำหรับการลี้ภัยหลังจากเสียบันลังก์แห่งแคว้นบาวาเลีย ซึ่งเขาก็อาศัยอยู่ในปราสาทสุดสวยแห่งนี้ จวบจนวาระสุดท้าย ซึ่งก็ดูจะไม่แย่นักเพราะเขามีบริวารมากมาย อยู่อย่างสุขสบาย จนวาระสุดท้ายของชีวิต

6) ไบรอยท์ (Bayreuth)


ไบรอยท์ (Bayreuth) เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
ทุกๆปีที่ไบรอยท์จะจัดเทศกาลของ Richard Wagner นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งในปี 2013 ได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ และ อลังการกว่าที่ผ่าน เพราะเป็นวันครบ 200 ปี วันเกิดของ Richard Wagner . . . ซึ่งในทุกๆปีที่นี่จะจัดคอนเสิร์ต 8 ครั้งด้วยกัน โดยมีนักดนตรีคลาสสิคชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วม
แต่ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่ใช่แฟนตัวยงของดนตรีคลาสสิค แต่คุณก็ไม่มีทางจะผิดหวังจากความอลังการของสถาปัต และ งานศิลป์ ยุคศตวรรตที่ 18 บนฝาพนังของโรงโอเปร่ายักษ์แห่งนี้อย่างแน่นอน (นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็น 1 ในโรงหนังสไตล์บาโรคที่สวยที่สุดของทวีปยุโรปเลยหละครับ)

7) หุบเขาส่วนกลางตอนเหนือของแม่น้ำไรน์ (The Upper Middle Rhine Valley)


หุบเขาส่วนกลางตอนเหนือของแม่น้ำไรน์ (The Upper Middle Rhine Valley) เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
ปราสาท คฤหาสน์ และ สวนองุ่น เรียงรายล้อมกันอยู่ในเวิ้งของหุบเขากลางของแม่น้ำไรน์ หรือ The Upper Middle Rhine Valley ซึ่งได้รับรางวัลให้เป็นมรดกโลกจากองการค์ UNESCO. . . วิวสวยๆของหุบเขาแห่งนี้เริ่มตั้งแต่เมืองโรมัน Koblnez ผ่านไปยังโขดหิน Loreley จุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำ . . . ในอดีตว่ากันว่ามีพรายน้ำชื่อ Loreley ทำการร้องเพลงชักชวนกลาสีให้เข้าไปติดกับชนโขดหินและเรือร่มเสียชีวิตในที่สุด นอกจากนั้นหุบเขาแห่งนี้ยังมีเมืองแสนสวยอย่าง Bingen และ Rudesheim แถมด้วยไร่องุ่นมากมายเรียงรายกันให้วิวแสนสวยที่หาไม่ได้จากที่ไหนเลยแหละครับ

8) มิวนิก (Munich) – สถานที่ท่องเที่ยวเยอรมัน


มิวนิก (Munich) - สถานที่ท่องเที่ยวเยอรมัน เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
มิวนิกเป็นเมืองหลวงของเขต Bavaria เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตนี้เช่นกัน เต็มไปด้วย สถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนา และที่สำคัญเบียร์การ์เด้น ซึ่งชาวเยอรมันเรียกเบียร์การ์เด้นว่า cellar (แปลว่า ห้องใต้ดิน) เพราะว่าดั้งเดิมนั้น ผู้ที่จำหน่ายเบียร์จะขายเบียร์ของเขา ใกล้กับทางขึ้นที่หมักเบียร์ใต้ดิน
ในทุกๆฤดูใบไม้ร่วงจะมีเทศกาลเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือที่เรียกว่า The Oktoberfest จัดขึ้นที่เมืองมิวนิก ซึ่งจะมีแบรนด์เบียร์ดังๆจากทั้งในเยอรมันและนานาชาติเข้าร่วมมากมาย . . . เขตสำคัญของที่นี่ก็คือ Marienplatz ซึ่งคุณจะพบกับสถานที่สำคัญอย่าง Town Hall และ ตึก St. Mary ซึ่งเหมาะเป็นสถานที่แรกที่จะมาเยือนหากมาที่มิวนิก . . . ต่อมาเป็น The Deutschse Museum ซึ่งเป็น 1 ในทีจัดงานเทศกาลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งแน่นอนมีรถใหมๆมากมายทั้ง BMW และ Mercedes เข้าร่วมเทศกาล ผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและรถต้องชอบเทศกาลนี้แน่ๆ

9) ทะเลสาปโบเดนเซ (Lake Constance) – ทัวร์เยอรมัน


ทะเลสาปโบเดนเซ (Lake Constance) - ทัวร์เยอรมัน เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
วิวของเทือกเขาแอลป์จากทะเลสาปโบเดนเซจะทำให้คุณต้องตะลึงในความสวยงามของบรรยากาศ ทะเลสาปนี้มีอาณาเขตติดสามประเทศก็คือ สวิส ออสเตรีย และ เยอรมัน ซึ่งคุณสามารถจะ เล่นเรือใบ วินเซิร์ฟ วายน้ำ หรือพายเรือเล่น ก็ได้ ถ้าหากอยากไปชมวิวสวยๆบนเกาะ กลางทะเลสาปทั้ง 3 ก็ทำได้เช่นกัน ในบริเวณทะเลสาปโบเดนเซมีอะไรให้ค้นหามากมาย เช่น วิวเมืองสวยๆของเมือง และ หมู่บ้าน รวมไปถึงปราสาทหลายหลังที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาป เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของเยอรมันที่น่ามาเยือนเป็นอย่างยิ่ง

10) ภูเขา Zugspitze – เที่ยวเยอรมัน


เทือกเขา Zugspitze - เที่ยวเยอรมัน เที่ยวเยอรมัน 10 สถานที่ท่องเที่ยว ทัวร์เยอรมัน
ถ้าหากการดูวิวจากทะเลสาปโบเดนเซทำให้คุณรู้สึกฟินแล้วหละก็ ถ้าคุณไปบนภูเขา Zugspitze รับรองว่าต้องฟินยิ่งกว่าเดิมแน่นอน เพราะภูเขาแห่งนี้มีความสูงที่สุดในเยอรมัน (ที่สุดสูงสุดนั้น มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 3 กิโลเมตรเลยทีเดียว) ด้วยวิวสุดสวยแบบ พาโนราม่า 360 องศา คุณสามารถมองเห็นได้มากกว่า 400 ภูเขา ของหลายประเทศทั้ง เยอรมัน, ออสเตรีย, อิตาลี และ สวิตเซอร์แลนด์ และด้วยหิมะซึ่งตกรวมกัน 7 เดือนต่อปี นักท่องเที่ยวสามารถเล่น สกี สโนบอร์ด และกิจกรรมอื่นๆอีกมายมาก คุณสามารถมาเที่ยวได้แบบวันเดียวจบแล้วกลับ หรือจะพักที่หมู่บ้าน Igloo ก็ได้เช่นกัน