วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

เสน่ห์แคว้นโพรวองซ์


โพรวองซ์ ดินแดนแห่งสีสันและแสงแดดอันอบอุ่น





หากพูดถึงฝรั่งเศส หนึ่งในภาพที่ดูจะติดตราตรึงใจใครหลายๆ คน คงเป็นภาพของบ้านหลังเล็กๆ ทาสีส้ม อ่อนดูอบอุ่น มุงกระเบื้องหลังคาสีน้ำตาล ตั้งอยู่เรียงรายอยู่ริมฝั่งทะเล โดยมีไร่องุ่นและเทือกเขาสูงชันเป็นฉากหลัง โพรวองซ์ (Provence) ดินแดนทางตอนใต้ของฝรั่งเศสที่อยู่ติดกับอิตาลีนั่นเอง และหากพิจารณากันดีๆ แล้ว ภาพอันคุ้นตาที่ว่าสามารถบอกจุดเด่นของโพรวองซ์ได้อย่างหนึ่ง นั่นคือ การเป็นดินแดนแห่งความหลากหลาย เริ่มจากสภาพภูมิประเทศที่สามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วนตามชื่อ เขตการปกครองอย่างเป็นทางการที่ว่า โพรวองซ์-แอลป์-โกต ดาซูร์ (Provence-Alps-Côte d’Azur) นั่นคือ เขตโพรวองซ์ หรือกลุ่มเมืองบนเนินเขา ที่เชื่อมระหว่างเทือกเขาแอลป์เข้ากับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าไว้ ด้วยกัน ชาวเมืองเหล่านี้มีอาชีพหลักคือการปลูกทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ปะปนไปกับการทำไร่องุ่นเพื่อผลิตไวน์ เราจึงเห็นบ้านหลังเล็กๆสีสดใสแทรกแซมอยู่กับไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ซึ่งทิวทัศน์อันสวยงามที่ว่า ได้เคยดึงดูดศิลปินที่มีชื่อเสียงอย่างเซซานน์ (Cézanne) และแวน โก๊ะห์ (Van Gogh) ให้มาปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาแล้ว ส่วนที่สองคือส่วนเทือกเขาแอลป์ ที่โดดเด่นเรื่องกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ นอกจากสกีรีสอร์ตกว่า 300 แห่ง แล้วเขตนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อย่างการขี่ม้าชมเขา ปีนเขา ขี่จักรยาน รวมไปถึงการเล่นเครื่องร่อน เขตสุดท้ายคือโกต-ดาซูร์ กลุ่มเมืองริมชายฝั่งทะเล (โกต ดาซูร์ ภาษาฝรั่งเศสแปลว่าชายฝั่งสีน้ำเงิน) หรือที่รู้จักกันในนาม เฟรนช์ ริเวียร่า” (French Riviera) ที่มีเมืองชื่อคุ้นหูอย่างนีส (Nice) คานน์ (Cannes) และกราสส์ (Grasse)

แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามเป็นที่ขึ้นชื่อของแคว้นโพรวองซ์ 

เมืองเอ็กซองโพรวองซ์ (Aix-en-Provence)



Aix en Provence ในอดีตเคยมีฐานะเป็นถึงเมืองหลวงของแคว้นโพรวองซ์ เป็นศูนย์กลางของอำนาจ และความเจริญของแคว้น ปัจจุบันเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส ที่มีความเก่าแก่ถึง600 ปี ถนนสายหลักของเมือง คือ ถนนมิราโบ (le cour Mirabeau) ที่มีต้น Platane เรียงรายสองข้างทาง และมีความสวยงามมากสายหนึ่งของฝรั่งเศส เป็นที่ตั้งของร้านค้าหรูและร้านกาแฟสไตล์ฝรั่งเศสพลาดไม่ได้ที่จะไปนั่งดื่มกาแฟชมบรรยากาศที่ร้าน Les Deux Garçon ร้านกาแฟเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ.1792 และ Aix en Provence เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยน้ำพุกว่าร้อยแห่ง ที่มีรูปร่างลักษณะต่างๆ สวยงามแตกต่างกันไป

เมืองเลโบเดอโพรวองซ์ (Les Baux de Provence)
ร้านน่ารักๆในเมืองเลโบเดอโพว้องซ์เมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจน ศิลปะ และวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีซากปราสาทขนาดใหญ่ของอดีตเจ้าเมือง ที่แสดงถึง ความยิ่งใหญ่ในอดีตของเมืองนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีส่วนร่วมในการตระเตรียมยุทโธปกรณ์ เพื่อไปรบในสงครามครูเสดความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของ Les Baux de Provence นี้เอง 
ที่ทำให้หมู่บ้านนี้ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็น จำนวนหลายล้านคนต่อปี และเป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์และสินค้าพื้นเมืองของโพรวองซ์ด้วย


เมืองนีซ (Nice)



เมือง Nice มีความใหญ่เป็นอันดับห้า ของประเทศฝรั่งเศส อยู่ทางตอนใต้ ในแคว้นที่ชื่อว่า โพรวองซ์ แอลป์โกต ดาซูร์ (Provence-Alpes-Côte d'Azur) อยู่ระหว่างภูเขาและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชายหาดหินที่สวยงาม เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่จะมาเดินกันอยู่ที่ถนนเรียบชายหาด " La Promenade des Anglais " (ลา โพรเมอ นาด เด ซอง เกส) ยิ่งหน้าร้อนแล้ว หาดสวย ฟ้าใส แดดดี จึงทำให้แทบจะหาที่ว่างไม่ได้เลยสำหรับชายหาดที่นี่ในย่านเมืองเก่า เมือง Nice จัดได้ว่าเป็นเมืองที่น่าเดินชมบรรยากาศแบบชาวโพรวองซ์ยิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเช้า จะมีพ่อค้า แม่ค้า ชาวนีซซัวส์ (Niçois) นำผัก ผลไม้ ดอกไม้สด และผลิตภัณฑ์พื้นเมืองมาตั้งร้านประชันกันอย่างสวยงาม
  เมืองมาร์เซย์ (Marseille)


มาร์เซย์ เมืองใหญ่อันดับสอง และเมืองท่าอันดับหนึ่งของฝรั่งเศสมาร์เซย์ได้ชื่อว่าเป็นประตูเมดิเตอร์เรเนียนสู่ดินแดนฝรั่งเศส เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยาวนาน ถึง2600 ปีชวนให้ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะล่องเรือเพื่อชมคุกเก่า (Château d’If) สมัยศตวรรษที่ 15 ชมพระราชวัง (Le Palais Longchamp) มหาวิหาร นอทเทอดาม เดอ ลาการ์ด (Notre Dame de la Gard) บ้านเรือนที่เต็มไปด้วยศิลปะในเขตเมืองเก่า และพลาดไม่ได้ที่จะเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของสโมสรโอลิมปิค มาร์เซย์” (OM)อดีตแชมป์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปียนลีคปี 1993
เมืองอาวิญญง (Avignon)
เมืองประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำโฮน (Rhône) และเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระสันตะปาปา (Palais des Papes) ที่ได้ย้ายที่พำนักมาที่นี่ จำนวน พระองค์ (ค.ศ.1309-1423) Avignon เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า ศาสนา ศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของแคว้นนอกจากนี้ยังมีสะพานที่มีชื่อเสียง คือ สะพานเซนต์เบเนเซ่ (Pont Saint-Bénézet) หรือที่หลายคนเรียกว่า สะพานแห่งเมืองอาวิญญง (Pont d’Avignon) หรือสะพานหัก สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1177
ปง ดู การ์ (Pont du Gard)
หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวโรมันสร้างเมื่อ 2000 ปีมาแล้ว คือทางส่งน้ำซึ่งมีความยาว 275 เมตรสามารถส่งน้ำได้ 34.8 ล้านลิตรต่อวัน ปงดูการ์ เป็นสะพานส่งน้ำจุดหนึ่งในการส่งน้ำระหว่าง เมือง Uzès และเมืองNîmes ซึ่งมีระยะทางถึง 50 กิโลเมตร ชาญฉลาดของชาวโรมันที่สามารถนำหินซึ่งมีน้ำหนักถึง ตันมาประกอบกันเป็นสะพานส่งน้ำ ที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม จวบจนปัจจุบันได้นำนักท่องเที่ยวถึง 1.25 ล้านคนต่อปี มาเยี่ยมชมความเร้นลับ อัศจรรย์ของปงดูการ์แห่งนี้ Pont du Gard ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากUNESCO เมื่อปี 1985
 เมืองลิล ซูร์ ลา ซอร์จ (L'Isle sur la Sorgue)
เป็นเมืองหนึ่งที่ไม่ควรพลาดใน Provenceสำหรับคนที่ชอบของเก่า เมืองนี้มีร้านของเก่าAntiquité กว่า 300 ร้านค้า และยังมีลำธารที่มีต้นกำเนิดมาจาก La Sorgue ไหลผ่านกลางเมือง วันนี้เมือง L’Isle sur la Sorgue เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในหมู่คนรักและสะสมของเก่า ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ และ ทุกวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี จะมีตลาดนัดคนขายของเก่ากว่า 500 ร้านค้า จากทั่วโลกมาแนะนำและขายของเก่าให้กับลูกค้าด้วย

 วาลองโซล และ เลย์ กอร์จ ดู แวร์ดง (Valensole et Les Gorges du Verdon )
แคนยอนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หรือที่ชาวฝรั่งเศสเรียกว่าสวรรค์บนดิน จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก Les Gorges du Verdon ที่นี่เราจะได้เห็นสายน้ำสุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ โดยการอนุรักษ์เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งสำคัญของฝรั่งเศสเลย ยามอากาศดี เราจะเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มาพักผ่อนหย่อนใจ บ้างก็ปิคนิค หรือมาเล่นเรือถีบ เรือแคนนู ชมความงามของแคนยอนแห่งนี้ ใกล้กับ กอร์จ ดู แวร์ดง เราสามารถไปชมความงามของทุ่งลาเวนเดอร์ตลอดสองข้างทาง ในเขตเมือง Valensole แหล่งปลูกลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส






ยังมีสถานที่อื่นที่น่าสนใจอีกหลายแหล่งอีกให้คุณได้สัมผัสในเมืองโพรวองซ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น